ทำไมต้องใช้ ‘ผลิตภัณฑ์รักโลก’ หรือ ‘Green Product’?

เพราะอะไรเราควรที่จะใช้ “ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือ Green Product “

เพราะอะไรเราควรที่จะใช้ "ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือ Green Product "

 เนื่องจากสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบันนี้ ส่งผลให้หลายๆ คน เริ่มหันมาให้ความสนใจและมองหา “ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือ Green Product” มาใช้ในชีวิตประจำวันกันเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ถุง กระดาษ หรือสินค้าที่มีฉลากสีเขียวกำกับ แต่! คุณเคยสงสัยบ้างหรือไม่ ว่าผลิตภัณฑ์รักโลกเหล่านี้ มันสามารถช่วยลดอัตราความรุนแรงของสภาวะโลกร้อนได้จริงๆ หรอ ? หรือเป็นเพียงแค่อุปทานหมู่เท่านั้น ? ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับ “ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือ Green Product” กัน ว่าแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไร และเพราะอะไรเราถึงควรใช้ผลิตภัณฑ์รักโลก! ซึ่งข้อมูลที่เรานำมาฝากนั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย! 

Green Product คืออะไร ?

อันดับแรกเราต้องอธิบายก่อนว่า “สีเขียว” ได้เป็นสีที่ถูกนำมาใช้ในความหมายของการ อนุรักษ์พลังงาน อนุรักษ์น้ำ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมากขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจเริ่มมองหาวัสดุและกระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งเมื่อนำสีเขียวมารวมกับผลิตภัณฑ์(ที่ผลิตขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการที่ไม่ส่งผลด้านลบต่อธรรมชาติ) จึงกลายมาเป็นคำว่า “ผลิตภัณฑ์สีเขียว” หรือ Green Product นั่นเอง  

8 คุณสมบัติสำคัญของ Green Product

1.ตัวผลิตภัณฑ์จะต้องผลิตให้พอกับความต้องการของผู้บริโภค โดยปราศจากความฟุ้งเฟ้อหรือผลิตมากเกินจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ล้นตลาด 

2.ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้สารพิษที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์

3.ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นต้องสามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากกรรมวิธีใดๆ ก็ตาม 

4.เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภาชนะหีบห่อน้อยที่สุด การออกแบบกล่องหรือหีบห่อบรรจุต้องไม่ฟุ่มเฟือยหรือสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ

5.ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยการอนุรักษ์พลังงานจากธรรมชาติ เริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การใช้งาน จนไปถึงเมื่อผลิตภัณฑ์สิ้นสภาพ

6.กระบวนการผลิตในโรงงานจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ หรือการปล่อยของเสียลงสู่ธรรมชาติ เช่น ควัน น้ำทิ้ง หรือขยะเคมี เป็นต้น 

7.ในกระบวนการผลิตสินค้า จะต้องไม่ทดลองหรือทารุณกรรมสัตว์ทุกชนิด

8.ห้ามนำสัตว์สงวนพันธุ์มาผลิตเป็นสินค้า หรือมีการทำร้ายสัตว์เหล่านั้นไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม

เพราะอะไรเราควรที่จะใช้ “ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือ Green Product “

การออกแบบ Green Product ต้องยึดหลัก 4R ให้ขึ้นใจ!

หากคุณเป็นผู้ประกอบการและต้องการให้ตัวผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นเป็น Green Product แล้วล่ะก็ คุณต้องยึดหลัก 4R ให้ขึ้นใจ คือ…

1.Reduce (ลดปริมาณของเสียได้)

2.Reuse (ใช้ซ้ำได้)

3.Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่ได้)  

4.Repair (ซ่อมแซมได้)

โดยให้คุณเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกวัสดุตั้งต้นสำหรับการผลิต ซึ่งต้องเป็นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างผลกระทบด้านลบต่อธรรมชาติ ส่วนการใช้งานผลิตภัณฑ์ต้องไม่สร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการจำกัดผลิตภัณฑ์ที่จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ หรือเรียกแบบง่ายๆ ก็คือ วัสดุที่นำมาใช้ต้องสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและไม่ทิ้งสารพิษหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์หรือสัตว์ในภายหลัง และในกรณีที่วัสดุไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ก็ต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ โดยผ่านกรรมวิธีต่างๆ เช่น การ Recycle การซ่อมแซม เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์ Green Product มีอะไรบ้าง ?

สำหรับคำถามที่ว่าผลิตภัณฑ์ Green Product มีอะไรบ้าง ? เราคงต้องพูดกันตามตรงว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Green Product อยู่หลายล้านชนิด! แต่เราจะขอยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Green Product มาบางส่วน เพื่อให้คุณได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นดังนี้…

1.พลาสติกย่อยสลายได้ หรือ Bio-degradable Plastic เช่น บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารรักษ์โลก ที่ผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติ อย่างชานอ้อย ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ โดยไม่ทิ้งมลพิษหรือสารเคมี มีให้เลือกทั้งแบบกล่อง จาน ชาม แก้วน้ำ และหลอด รวมถึงถุงจากมันสำปะหลังที่ใช้แทนถุงพลาสติกได้เป็นอย่างดี

2.เสื้อย้อมสีธรรมชาติ (เพราะมีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ)

3.กระดาษสำหรับงานพิมพ์หรือถ่ายเอกสาร ที่ผลิตจากเยื่ออีโค่ไฟเบอร์ แทนการใช้เยื่อจากต้นไม้

4.น้ำมันเอทานอล (เทียบกับ น้ำมันเบนซิน) น้ำมันไบโอดีเซล ก๊าซชีวภาพ

5.รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ / รถยนต์ Eco-car / รถยนต์ Hybrid

6.เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน สังเกตได้จากฉลากประหยัดไฟ

7.อาคาร/บ้าน/ที่พักอาศัย ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดพลังงาน เช่น ออกแบบให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือออกแบบให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ เพื่อประหยัดไฟ ก็ถือได้ว่าเป็น Green Product เช่นเดียวกัน

นอกจากผลิตภัณฑ์ Green Product แล้ว ยังมีบริการที่อยู่ในกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly Services) อีกด้วย เช่น 

1.ธุรกิจสายการบินพาณิชย์ ที่ปรับการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระหว่างบิน

2.บริการทำความสะอาดสำนักงาน ที่ใช้วัสดุและน้ำยา ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำยาล้างทำความสะอาดโดยใช้น้ำชำระล้างน้อย หรือใช้น้ำยาจากสมุนไพร ฯลฯ

3.ธุรกิจโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่เน้นการประหยัดการใช้น้ำ การใช้ไฟฟ้า และ การรีไซเคิลภายในโรงแรม

4.การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

5.ธุรกิจบริการขนส่งทางทะเลและทางบก ที่ปรับการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระหว่างเดินเรือ

ทั้งนี้การจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการ Green Product หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของทางผู้ผลิตเป็นหลัก! 

สินค้าตะกร้าเขียว คืออะไรกันนะ ?

นอกเหนือจากคำว่า Green Product แล้ว ยังคงมีอีกหนึ่งคำที่หลายๆ คน ยังคงค้างคาใจว่ามันคืออะไรกันแน่ ? ซึ่งคำๆ นั้นก็คือ “สินค้าตะกร้าเขียว” โดยความหมายของสินค้าตะกร้าเขียวก็คือ  การจัดซื้อ จัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม โดยจะมีการพิจารณาผลกระทบตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการหาวัตถุดิบในการผลิต การบรรจุหีบห่อ การขนส่ง การใช้งานและการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังหมดอายุการใช้งานสินค้า รวมไปถึงบริการที่ไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อธรรมชาติที่รัฐให้การสนับสนุน ซึ่งนั่นก็คือสินค้าและบริการที่ขึ้นทะเบียน “ตะกร้าเขียว” หรือผ่านการรับรอง ฉลากเขียว มาแล้วเป็นที่เรียบร้อย 

คุณสมบัติสำคัญของสินค้าตะกร้าเขียว

1.ใช้วัสดุในการผลิตน้อยหรือผลิตออกมาตามความต้องการของตลาด

2.ใช้เทคโนโลยีในการผลิต ที่มีประสิทธิภาพสูง

3.มีระบบขนส่งและจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ

4.คุณสมบัติของสินค้า เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด 

5.ใช้วัสดุในการผลิตที่มีผลกระทบน้อยต่อสิ่งแวดล้อม 

6.ลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมในช่วงของการใช้งานสินค้านั้นๆ 

7.สินค้ามีความคุ้มค่า คงทน ใช้งานได้นานหลายปี 

8.มีการจัดการที่ดีหลังจากที่สินค้าหมดอายุการใช้งาน 

ข้อดีของการเลือกใช้ Green Product

สำหรับข้อดีของการเลือกใช้ Green Product นั้น ก็มีอยู่มากมายหลายข้อ! โดยเราจะขอสรุปมาเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้…

1.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Green Product นั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนช่วยให้สภาวะโลกร้อนที่เรากำลังเผชิญอยู่ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะหากมีการใช้ผลิตภัณฑ์ Green Product เป็นจำนวนมาก ทางผู้ผลิตก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการให้เข้ากับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวนั่นเอง

2.ช่วยให้โลกของเรายังคงมีธรรมชาติที่สวยงามสืบต่อไปในอนาคต 

3.สัตว์ต่างๆ จะเกิดภาวะสมดุลทางธรรมชาติ ไม่ต้องมาตาย เนื่องจากเศษผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 

4.ช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ Green Product หลายๆ ตัว ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติที่เกษตรกรสามารถปลูกได้ เช่น มันสำประลัง อ้อย เป็นต้น 

 รายละเอียดที่เรากล่าวไปนั้น คงจะทำให้คุณเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่า ผลิตภัณฑ์รักโลกสามารถช่วยบรรเทาสภาวะโลกร้อนที่กำลังรุนแรงในปัจจุบันนี้ให้ดีขึ้นได้จริง! อีกทั้งผู้ผลิตสินค้าหลายๆ เจ้า ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์รักโลกในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนได้อย่างตรงจุด แต่! ท้ายที่สุดแล้ว ตัวคุณเองคือผู้กำหนดว่าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณต้องการให้ธรรมชาติและโลกของเรายังคงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมที่สวยงาม สดใส การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักโลกหรือ Green Product คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้วล่ะ!

Main Menu