คำแนะนำกระดาษฉลากเขียว: กระดาษที่มาแรงสุดยุค!

ทำความรู้จัก “กระดาษฉลากเขียว” กระดาษที่มาแรงที่สุดแห่งยุค!

ทำความรู้จัก “กระดาษฉลากเขียว” กระดาษที่มาแรงที่สุดแห่งยุค!

 “กระดาษฉลากเขียว” คำๆ นี้ คงจะเป็นคำที่หลายๆ คน คงจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างแล้ว แต่! ก็ยังมีข้อสงสัยตามมาว่ากระดาษฉลาดเขียวหรืออะไร ? มันแตกต่างจากกระดาษทั่วไปอย่างไร ? ซึ่งเราก็ไม่รอช้า ที่จะส่งทีมงานเสาะหารายละเอียดเกี่ยวกับกระดาษฉลาดเขียวมาฝากคุณ โดยเราต้องขอบอกเลยว่ากระดาษเขียวนี่แหละ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการกระดาษในในบ้านเรา! และรายละเอียดของกระดาษเขียวจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 

ฉลากเขียว (Green Label) คืออะไร ?

ก่อนที่จะไปรู้จักกับกระดาษฉลากเขียว เราไปทำความรู้จักกับ “ฉลากเขียว (Green Label)” กันก่อนดีกว่าว่ามันคืออะไร ฉลากเขียว คือ ฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ซึ่งฉลากประเภทนี้มีองค์กรกลางเป็นผู้ให้การรับรองการติดฉลากบนสินค้าต่างๆ เพื่อต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคหรือผู้คนทั่วไป ได้รับทราบว่าสินค้าชนิดนั้นๆ ได้รับการรับรองว่า องค์ประกอบ กระบวนการผลิต การใช้งาน ตลอดจนถึงการทำลายทิ้ง มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ไม่มีฉลากเขียว! หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นเครื่องหมายการันตีให้ผู้บริโภคมองเห็นว่าสินค้าชิ้นนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง อีกทั้งผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติก็สามารถมองหา “ฉลากเขียว” ที่แสดงอยู่บนสินค้าได้เช่นกัน! 

กระดาษฉลากเขียว คืออะไร ?

กระดาษฉลากเขียว คือ กระดาษที่มีกระบวนการการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดการใช้เยื่อไม้โดยการใช้เยื่ออีโคไฟเบอร์ การใช้ไม้จากการปลูกโดยเกษตรกร ไม่ใช่การทำลายป่า เป็นต้น ทั้งนี้กระดาษฉลากเขียวในปัจจุบันมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั่วโลก ว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อกระดาษมีความเรียบลื่น สะอาด และที่สำคัญการเลือกใช้กระดาษฉลากเขียวยังเป็นการช่วยรักษาโลกของเราให้รอดพ้นจากสภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย! 

โครงการฉลากเขียวเริ่มต้นจากประเทศไทยจริงๆ หรอ ?

หากคุณคิดว่าโครงการฉลากเขียวได้เริ่มต้นในประเทศไทยนั้น เราบอกเลยว่าคุณคิดผิด! เพราะประเทศเยอรมนีเป็นประเทศแรกที่เริ่มดำเนินการโครงการฉลากเขียวในปี 2520 โดยมีจุดประสงค์ที่ต้องการจะฟื้นฟูและรักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันนี้โครงการฉลากเขียว มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 30 ประเทศแล้ว ซึ่งประเทศไทยของเราก็ได้ทำการตกลงยอมรับการดำเนินการระดับองค์กร และความเชื่อถือของห้องปฏิบัติการในการทดสอบตามมาตรฐานร่วมกัน (Mutual Recognition Agreement) ส่งผลให้ “ฉลากเขียว” ของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

จุดเริ่มต้นของโครงการฉลากเขียวในประเทศไทย

ประเทศไทยมีการเริ่มต้นจัดทำโครงการฉลากเขียวเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2536 โดยคณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD) ซึ่งการดำเนินการของโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากสถาบันต่างๆ ทั้งในส่วนของราชการ ภาคธุรกิจและองค์กรกลาง อีกทั้งสำนักเลขานุการโครงการฉลากเขียว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการโครงการ รับหน้าที่ประสานงานและดำเนินงานโครงการในการอนุมัติสำหรับการใช้ฉลากเขียวและคุ้มครองสิทธิ์ของฉลาดเขียว 

ผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่สามารถขอรับการรับรองฉลากเขียว

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สามารถขอการรับรองฉลากเขียวได้นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.สินค้า 2.บริการบางประเภท แต่ในกลุ่มของ ยา เครื่องดื่มและอาหาร จะไม่สามารถขอฉลากเขียวได้ เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 อย่างนั้น จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพมากกว่าเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถ้าหากอนุญาตให้ติดฉลากเขียว อาจจะสร้างความสับสนให้แก่ผู้บริโภคได้นั่นเอง 

35 ผลิตภัณฑ์ ที่สามารถขอรับรองเครื่องหมายฉลากเขียวได้!

1.ผลิตภัณฑ์สําเร็จรูปทำจากพลาสติกที่ใช้แล้ว 

2.หลอดฟลูออเรสเซนต์ 

3.เครื่องปรับอากาศ 

4.กระดาษ 

5.สเปรย์ 

6.สารซักฟอก 

7.ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ประหยัดน้ำ 

8.คอมพิวเตอร์ 

9.เครื่องซักผ้า

10.ฉนวนกันความร้อน 

11.ฉนวนยางกันความร้อน 

12.มอเตอร์ 

13.ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้า 

14.บริการซักน้ำและซักแห้ง 

15.แชมพู

16.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดถ้วยชาม 

17.น้ำมันหล่อลื่น 

18.เครื่องเรือนเหล็ก 

19.ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ยางพารา 

20.บัลลาสต์

21.อิเล็กตรอน 

22.สบู่ 

23.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว 

24.ผลิตภัณฑ์ลบคําผิด 

25.เครื่องถ่ายเอกสาร 

26.สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 

27.เครื่องเขียน 

28.ตลับหมึก 

29.ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ 

30.สีเคลือบกระเบื้องมุงหลังคา 

31.โทรศัพท์มือถือ

32.ตู้เย็น 

33.สี 

34.เครื่องสุขภัณฑ์ 

35.ถ่านไฟฉาย

ข้อดีที่น่าทึ่งของการมีฉลากเขียว

1.ใช้เป็นเครื่องหมายให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

2.ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามจุดประสงค์ 

3.ช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจมีการตื่นตัวในเรื่องของสิ่งแวดล้อม 

4.ช่วยให้สภาพแวดล้อมและธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง 

5.ช่วยลดความรุนแรงของสภาวะโลกร้อน  

5 ตัวอย่างกระดาษฉลากเขียว!

เมื่อเรารู้รายละเอียดเกี่ยวกับ “ฉลากเขียว” ไปมากพอสมควรแล้ว เราลองไปดู 5 ยี่ห้อกระดาษที่ขึ้นชื่อว่า “กระดาษฉลากเขียว” กันบ้างดีกว่า ว่าจะมีแบรนด์หรือยี่ห้อกระดาษเจ้าใดบ้าง!

1.กระดาษไอเดีย กรีน A4 80แกรม

หากพูดถึงกระดาษฉลากเขียว ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก กระดาษไอเดีย กรีน A4 80แกรม ที่เขาได้เน้นย้ำว่ากระดาษของเขานั้น เป็นกระดาษระดับพรีเมี่ยม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื้อกระดาษสะอาด ไม่มีจุดด่างดำ ใช้งานได้ดีทั้ง 2 หน้า โดยกระบวนการผลิตนั้นได้ลดการใช้ต้นไม้ด้วยเยื่ออีโคไฟเบอร์ 50% สามารถใช้ได้กับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ อิงค์เจ็ต และเหมาะกับอุปกรณ์สำนักงานทุกชนิด ผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้ถ่ายเอกสารต่อเนื่องได้ถึง 10,000 แผ่น โดยไม่ติดเครื่อง ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 1054-2552)

2.กระดาษ ONE Green A4 80 แกรม

กระดาษถ่ายเอกสาร A4 หนา 80 แกรม ONE Green กระดาษของธุรกิจยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยตัวกระดาษนั้นมีส่วนผสมของกระดาษเยื่อเวียนทำใหม่ 50% พร้อมฉลากเขียว Recycle คุณจึงมั่นใจในคุณภาพได้เลย โดยเนื้อกระดาษหนา เรียบ ใช้งานกระดาษได้ดีทั้ง 2 หน้า คุ้มค่ายิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีมาตรฐานรับรองมากมาย เช่น

1.ได้รับการรับรองเครื่องหมายฉลากเขียว (Thai Green Label) จากมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

2.ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.)

3.ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ISO9001

4.ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001

5.ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัย ISO45001

3.กระดาษ Quality A4 80 แกรม

กระดาษ Quality A4 80 แกรม มีจุดแข็งคือ… 

1.สีกระดาษขาวนวล ไม่สะท้อนแสง อ่านสบายตา 

2.เนื้อกระดาษแข็งแรง ไม่โค้งงอ ลดปัญหากระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสาร

3.เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ถ่ายเอกสารได้ถึง 2 หน้า คุ้มค่าต่อการใช้งาน

4.เหมาะสำหรับงานถ่ายเอกสาร งานพิมพ์ หรือเลือกใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ ใช้งานร่วมกับเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เครื่องพิมพ์เลเซอร์ และเครื่องพิมพ์ดีดทั่วไป

และที่สำคัญคือได้รับการรับรองมาตรฐานฉลากเขียว จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย อีกทั้งยังได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 9001, 14001 อีกด้วย

4.กระดาษ Green Read A4 80 แกรม

กระดาษ Green Read A4 80 แกรม เป็นกระดาษถนอมสายตา ด้วยนวัตกรรมพิเศษช่วยลดการสะท้อนของแสง ทำให้อ่านได้นาน สบายตา และตัวงานพิมพ์ไม่เก่าเร็ว อีกทั้งเนื้อกระดาษยังช่วยให้งานพิมพ์ของคุณดูสวยงามากกว่าที่เคย! 

5.กระดาษ Double A A4 80 แกรม

กระดาษฉลากเขียวยี่ห้อสุดท้ายคือ กระดาษ Double A A4 80 แกรม ที่เข้าได้บอกรายละเอียดจุดเด่นออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้…

1.เนื้อกระดาษขาวสว่างพอเหมาะ ผิวเรียบ ลื่น ให้คุณภาพงานพิมพ์คมชัด

2.ไม่ติดเครื่องถ่ายเอกสาร

3.ช่วยยืดอายุเครื่องถ่ายเอกสาร

4.สามารถใช้งานได้ 2 ด้าน จึงมีความคุ้มค่าในการใช้งานที่มากกว่า

5.ทุกรีม มีส่วนช่วยสร้างพลังงานทดแทน จากการนำเศษไม้ที่เหลือจากกระบวนการผลิตกระดาษไปผลิตกระแสไฟฟ้า

6.ทุกรีม ผลิตจากต้นกระดาษบนคันนา ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 12.5 กิโลกรัมต่อรีม ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน

 “กระดาษฉลากเขียว” หรือสินค้าฉลากเขียวล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยลดผลกระทบด้านลบให้กับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นหากคุณมีโอกาสที่จะต้องเลือกซื้อกระดาษไปใช้งานแล้วล่ะก็ อย่าลืมมองหา “กระดาษที่มีฉลากเขียวกำกับ” เพื่อคุณจะได้เป็นแรงผลักดันให้โลกของเรายังคงมีธรรมชาติที่สวยงามสืบต่อไป!  

Main Menu